เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าหลังน้ำท่วม

Last updated: 9 ก.ค. 2568  |  4 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าหลังน้ำท่วม

รู้ทันสัญญาณเตือนอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายหลังน้ำท่วม

หลังจากน้ำท่วมแล้ว หนึ่งในความกังวลใจสำคัญของทุกครอบครัวคือความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เปียกน้ำอาจดูเหมือนใช้งานได้ปกติ แต่แท้จริงแล้วอาจกำลังส่งสัญญาณเตือนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้จักสัญญาณเตือนและตัดสินใจได้ถูกต้องว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าใหม่

 

ทำไมอุปกรณ์ไฟฟ้าหลังน้ำท่วมถึงอันตราย

เมื่อน้ำเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การเปียกผิวเผิน แต่น้ำจะซึมเข้าไปในชิ้นส่วนภายใน ทำให้เกิดการกัดกร่อนของโลหะ การสะสมของความชื้น และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่มองไม่เห็น

น้ำโดยเฉพาะน้ำท่วมที่ปนเปื้อนโคลน สิ่งสกปรก และสารเคมีต่างๆ จะทำให้ความเสียหายรุนแรงยิ่งขึ้น น้ำเหล่านี้มีค่าการนำไฟฟ้าสูง ทำให้เกิดการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าได้ง่าย

แม้อุปกรณ์จะแห้งแล้ว แต่ตัวนำไฟฟ้าภายในอาจยังคงมีสิ่งสกปรกและเกลือแร่ติดค้าง ซึ่งจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ในอนาคต


8 สัญญาณเตือนที่บอกว่าต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าใหม่

  1. อุปกรณ์ที่จมน้ำมากกว่า 24 ชั่วโมง
    หากอุปกรณ์ไฟฟ้าจมอยู่ในน้ำเกิน 24 ชั่วโมง ควรเปลี่ยนทันทีไม่ต้องลังเล น้ำจะซึมเข้าไปในทุกซอกทุกมุม และการแห้งตัวเองไม่สามารถกำจัดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้

  2. มีกลิ่นไฟไหม้หรือกลิ่นแปลกๆ
    เมื่อเปิดใช้งานแล้วมีกลิ่นไฟไหม้ กลิ่นพลาสติกละลาย หรือกลิ่นแปลกๆ แสดงว่าชิ้นส่วนภายในเสียหายแล้ว ต้องหยุดใช้งานและเปลี่ยนใหม่ทันที

  3. มีประกายไฟหรือเสียงผิดปกติ 
    การเกิดประกายไฟ เสียงดัง หรือเสียงผิดปกติเมื่อเสียบปลั๊กหรือเปิดเครื่อง เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงการลัดวงจรภายในอุปกรณ์

  4. สีผิวของอุปกรณ์เปลี่ยนไป
    หากสังเกตเห็นรอยดำ รอยไหม้ หรือการเปลี่ยนสีของตัวอุปกรณ์ แสดงว่าเกิดความร้อนสูงจากการลัดวงจร ต้องเปลี่ยนทันที

  5. การทำงานผิดปกติหรือไม่เสถียร
    อุปกรณ์ที่เปิด-ปิดเองบ่อยๆ ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือมีการสั่นสะเทือนผิดปกติ อาจมีปัญหาในระบบควบคุมหรือมอเตอร์

  6. ตัวเครื่องร้อนผิดปกติ
    หากสัมผัสแล้วรู้สึกว่าอุปกรณ์ร้อนเกินปกติ แม้ใช้งานไม่นาน แสดงว่าอาจมีการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าหรือความต้านทานเพิ่มขึ้น

  7. อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าเยอะขึ้น
    สังเกตจากค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ อาจเป็นผลมาจากความเสียหายภายในที่ทำให้อุปกรณ์ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น

  8. อุปกรณ์ที่มีส่วนประกอบซับซ้อน 
    เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ หรือเครื่องปรับอากาศ ควรเปลี่ยนใหม่หากเคยจมน้ำ


อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

  • อุปกรณ์ที่ใช้มอเตอร์เป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูง เช่น พัดลม เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เครื่องซักผ้า หรือปั๊มน้ำ เนื่องจากน้ำที่เข้าไปในมอเตอร์จะทำลายระบบหล่อลื่นและทำให้เกิดการสึกหรอ
  • อุปกรณ์ที่มีหม้อแปลงไฟฟ้า เช่น ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า หรือเตาอบ มีความเสี่ยงสูงเพราะน้ำจะทำให้ฉนวนไฟฟ้าเสียหาย
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ มีแผงวงจรที่ละเอียดอ่อน น้ำจะทำลายได้ง่าย


วิธีตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าหลังน้ำท่วมอย่างปลอดภัย

  • ก่อนตรวจสอบอุปกรณ์ใดๆ ต้องตัดไฟหลักของบ้านก่อนเสมอ และรอให้อุปกรณ์แห้งสนิทอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • ตรวจสอบด้วยสายตาก่อน มองหารอยแตก รอยไหม้ การเปลี่ยนสี หรือส่วนที่ผิดปกติ หากพบอาการเหล่านี้ ไม่ควรเสี่ยงใช้งาน
  • ใช้เครื่องวัดกระแสไฟฟ้ารั่วไหล (Insulation Tester) ตรวจสอบก่อนเสียบปลั๊ก หากไม่มีเครื่องมือนี้ ควรให้ช่างไฟฟ้าที่มีใบรับรองตรวจสอบให้
  • ทดลองเปิดใช้งานครั้งแรกควรมีคนเฝ้าดู และเตรียมตัดไฟทันทีหากมีอาการผิดปกติ


ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงของการไม่เปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหาย

  • ไฟไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียหายอาจทำลายทรัพย์สินทั้งหลัง ค่าเสียหายอาจมากกว่าการซื้ออุปกรณ์ใหม่หลายเท่า
  • การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากอุปกรณ์ที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ จะสะสมเป็นค่าไฟฟ้าแพงในระยะยาว
  • ค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุจากไฟฟ้าดูดหรือไฟไหม้ อาจสูงมากกว่าการป้องกัน


เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าใหม่อย่างไรให้เหมาะสมหลังน้ำท่วม

หลังจากประสบเหตุน้ำท่วม การเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าใหม่ควรพิจารณาระดับการป้องกันน้ำ (IP Rating) ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยง

  • เลือกอุปกรณ์ที่มีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและไฟฟ้ารั่วไหลในตัว เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
  • พิจารณาอุปกรณ์ที่มีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดี เพื่อความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว

ฮาโก้ อิเลคทริค เข้าใจดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลังน้ำท่วม เรามีประสบการณ์ช่วยเหลือลูกค้าหลายพันรายในการเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เหมาะสมและปลอดภัย สินค้าของเรามีมาตรฐานความปลอดภัยครบถ้วน พร้อมระบบป้องกันที่ทันสมัย ช่วยให้คุณมั่นใจในการใช้งาน ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า และแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ เรามีบริการส่งสินค้าด่วนและติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ ทำให้คุณกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วที่สุด

อย่าเสี่ยงกับสัญญาณเตือนที่อาจนำไปสู่อันตราย ความปลอดภัยของคุณและครอบครัวมีค่ามากกว่าการประหยัดเงินในระยะสั้น

ติดต่อฮาโก้ อิเลคทริค วันนี้ รับคำปรึกษาฟรีจากช่างผู้เชี่ยวชาญ และโปรโมชั่นพิเศษ


อุปกรณ์ไฟฟ้า ทางเลือกที่ใช่  สำหรับอนาคตที่ยั่งยืน
โดย บริษัท ฮาโก้ อิเลคทริค (ประเทศไทย) จำกัด

โทร. : 02-952-7788
Line ID : @Hacosmartlife
E-mail : [email protected]
Facebook : https://www.facebook.com/hacoelectricofficial/
Youtube : https://www.youtube.com/user/HACOELECTRICTHAILAND

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้